จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2560

การพัฒนาระบบสารสนเทศ ของเพจ เราคือท่าบ่อ จ.หนองคาย 😍😂

สำรวจเบื้องต้น
ปัญหาของเพจ
 เป็นเพจน้องใหม่ จึงยังไม่เป็นที่รู้จักและยังไม่เป็นระบบเท่าไหร่
 ไม่ได้สังกัดในพื้นที่โดยตรง หรือประจำอยู่ตลอดเวลา
 ไม่ได้มีการโปรโมทเพจอย่างต่อเนื่อง
 ขาดข่าวสารบางช่วงเวลา จึงไม่มีความต่อเนื่อง
ค่าใช้จ่ายของระบบ รวมแต่ละเดือนประมาณ 80,000/เดือน
⟴ ค่าลงพื้นที่แต่ละครั้ง ครั้งละ 1,000 บาท
⟴ กิจกรรมอีเวนท์ 20,000 บาท
⟴ ค่าอุปกรณ์ 10,000 บาท
⟴ ค่าใช้จ่าย 20,000 บาท
⟴ ค่าปรับปรุงระบบ 20,000 บาท
วิเคราะห์ความต้องการ
ของผู้ใช้
⇢ ข่าวสารที่รวดเร็วและแม่นยำ
⇢ ใช้งานสะดวกและง่ายต่อการค้นหาที่หลากหลาย
เด่น
⇢ มีความรวดเร็ว ของข่าวสารแม้ไม่ได้สังกัดในพื้นที่ตลอดเวลา
⇢ พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนแก้ไข ข้อบกพร่องของเพจอยู่เสมอ
ด้อย
⇢ ยังติดขัดและยังไม่ได้ตามระบบ ตามเป้าหมายเท่าที่ควร
⇢ ยังไม่มีอะไรน่าสนใจและน่าดึงดูด เหมือนกับเพจของคู่แข่ง
ออกแบบระบบ
จะทำการป้อนข้อมูลผ่าน Hardware โดยชุดคำสั่งของข้อมูลของ Software จะประมวลผลออกมาให้โดยอัตโนมัติ ผ่านอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถใช้งานได้หลากหลายระบบ ผ่าน สมาร์ทโฟน เทปเล็ต โน้ตบุ๊ค และอื่นๆ
facebook ➧ อัพเดทข้อมูลข่าวสารอยู่เสมอ
twit ➧ ปรับปรุงให้เข้ากับการใช้งานให้ได้มากที่สุด
blogger➧ หลากหลายทุกการใช้งานและสะดวก
ส่วนการเก็บรักษา สามารถเก็บไฟล์งานได้ในเมมเมอรี่คลาส ที่สามารถพกพาได้ง่าย สะดวก และบรรจุได้เยอะ
การปฏิบัติงาน
จัดหาอุปกรณ์
Software คือ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรือกล้องถ่ายภาพที่พร้อมใช้งานได้อยู่ตลอดเวลา และเหมาะกับทุกงานและไปได้ทุกสถานที่
Hardware คือ อินเตอร์เน็ต หรือ แอพพลิเคชั่นต่าง Facebook Twitter และ Blockerโดยจะมีการอัพเดทข้อมูลข่าวสารอยู่ตลอดเวลา
ติดตั้งและบำรุงรักษา (System Implement and Maintenance)
การอัพเดตระบบสารสนเทศทุกสัปดาห์ การอัพข้อความข้อมูลต่างๆสม่ำเสมอ ตามตารางที่จัดเตรียมไว้และข้อมูลที่อัพเดตเป็นข้อมูลสาธารณะ เพื่อผู้ที่สนใจเข้าชมและแชร์ได้ ตามระยะเวลา 2 เดือน
มั่นปรับปรุงกลยุทธ์และปรับปรุงระบบให้เข้ากับยุคสมัยและ เหมาะแก่การใช้งานที่หลากหลายให้ได้......

ประมวลเหตุการณ์ 1 ปี วันสวรรคต "ในหลวง รัชกาลที่ 9"

วันพฤหัสบดีที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2560

กลยุทธ์ของเพจ เราคือท่าบ่อ จ.หนองคาย
1. ภารกิจ (Mission)
เพื่อเป็นการโปรโมทอำเภอท่าบ่อ และบอกเล่าข้อมูลข่าวสาร แนะนำที่เที่ยว ที่กิน และที่พักต่างๆให้กับนักท่องเที่ยว
2. โครงร่างของบริษัท (Company profile)
ชื่อเพจ เที่ยวส่องดาว : เราคือท่าบ่อ จ.หนองคาย
พนักงาน
     ฝ่ายดูแลเพจ(แอดมินเพจ) : 2 คน
     ฝ่ายคอนเทนต์(เนื้อหา) : 3 คน
     ฝ่ายช่างภาพ : 2 คน
3. การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก
            SWOT
            3.1 S = Strength-จุดแข็ง
                 1.บอกเล่าข้อมูลข่าวสารอย่างรวดเร็ว
                 2.แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ที่กินและที่พักอัปเดตตลอดเวลา
                 3.มีช่องทางที่หลากหลายในการเลือกชม เช่น บล็อกเกอร์ ทวิตเตอร์ เพจ และยูทูป เป็นต้น
            3.2 W = Weakness-จุดอ่อน
                 1.เพจยังไม่ค่อยมีคนรู้จักมากเท่าที่ควร
                 2.ยังไม่มีกิจกรรมที่น่าสนใจให้แก่ลูกเพจนอกจากข้อมูลข่าวสาร

            3.3 O = Opportunity-โอกาส
                 1.เพจไม่ได้มีแค่บอกเล่าข้อมูลข่าวสารของอำเภอ แต่ยังแนะนำอาหารการกิน ประเพณีวัฒนธรรมอื่นๆ และสินค้าโอท็อป ที่มีอยู่ในอำเภอท่าบ่อ และอำเภอใกล้เคียง
                  2.ผู้ที่ชอบท่องเที่ยวจะมีโอกาศมากที่จะเห็นเพจของเรา
            3.4 T = Threats-อุปสรรค
                 1.เพจคู่แข่งที่นำเสนอในการเล่าเรื่องด้วยภาพที่สวยกว่า
                 2.วัน เวลาในการอัพเดตจะไม่แน่นอนเพราะต้องลงพื่นที่และหาข้อมูล
4.การวิเคราะห์กลยุทธ์และการเลือกกลยุทธ์
เป็นเพจ บล็อก ที่ให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับอำเภอท่าบ่อ  แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว อาหารการกิน และประเพณีวัฒนธรรมต่างๆ ในอำเภอท่าบ่อ
5. วัตถุประสงค์
1.เพื่อแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอท่าบ่อ
2.เพื่อให้ข้อมูลข่าวสารแก่คนในอำเภอ
3.เพื่อให้รู้เกี่ยวกับประเพณีวัฒนธรรมต่างๆ
4.เพื่อให้รู้จักสินค้าหรือของฝากที่ขึ้นชื่อของอำเภอท่าบ่อ
5.เพื่อให้ผู้คนรู้จักอำเภอท่าบ่อมากขึ้น
6. แผน (Plan)
            ภายในปีนี้ 2560 ทางเราจะมีการโปรโมทผ่านทุกช่องทาง และมีการจัดกิจกรรมร่วมสนุกต่างๆ  เพื่อให้คนรู้จักเพจ บล็อกของเรามากขึ้น จัดทำรายการเที่ยวไปเรื่อย แนะนำอำเภอท่าบ่อ


7. นโยบาย (Polices)
- เลือกโจทย์ในการจัดงาน
- ศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับโจทย์ที่เราเลือกในการจัดงาน
- วางแผนกลยุทธ์ตามที่เตรียมไว้
- พิจารณาแผนและตัดสินใจตามกลวิธี
- จัดทำตามที่วางแผนไว้
- ประเมินผลหลังจากเสร็จงาน
8. การปฏิบัติตามกลยุทธ์ (Stragegy implrmentation)
            ในการโปรโมทผ่านทางเพจและบล็อก ทางเราจะพยายามหาข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ติดตามเพจเรามากที่สุด สมารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ 

            ในการจัดอีเว้นต์จะมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ให้ผู้ที่มาร่วมงานได้เล่นเกมเกี่ยวกับอำเภอของเรา มีการจ้างนักแสดงมาเป็นพรีเซนเตอร์ของจังหวัดเพื่อดึงดูดผู้คนให้มาสนใจ บอกเล่าเรื่องราวดีๆ เพื่อกล่าวถึงเพจและบล็อกของเรา เชิญชวนให้คนเข้ามาติดตามกัน 

9 คำสอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ใจความของพระบรมราโชวาททั้งหมดจะมุ่งเน้นให้คนในชาติ รู้รักสามัคคี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีความพอเพียง รู้จักตนเอง มีความขยันหมั่นเพียร ในการทำหน้าที่ของตนเอง หมั่นศึกษาหาความรู้ให้กับตนเอง และที่สำคัญจะต้องซื่อสัตย์สุจริต ไม่คดโกงใคร ซึ่งคำสอนทั้งหมด หากเราทุกคนทำได้ ก็จะทำให้สังคมและประเทศของเรามีความเจริญรุ่งเรือง และไร้ซึ่งปัญหาทั้งมวล

1. ความเพียร

การสร้างสรรค์ตนเอง การสร้างบ้านเมืองก็ตาม มิใช่ว่าสร้างในวันเดียว ต้องใช้เวลา ต้องใช้ความเพียร ต้องใช้ความอดทน เสียสละ แต่สำคัญที่สุดคือความอดทนคือไม่ย่อท้อ ไม่ย่อท้อในสิ่งที่ดีงาม สิ่งที่ดีงามนั้นทำมันน่าเบื่อ บางทีเหมือนว่าไม่ได้ผล ไม่ดัง คือดูมันควรทำดีนี่ แต่ขอรับรองว่าการทำให้ดีควรต้องมีความอดทน เวลาข้างหน้าจะเห็นผลแน่นอนในความอดทนของตนเอง พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่นักเรียน นักศึกษา ครู และอาจารย์ในโอกาสเข้าเฝ้าฯ วันที่ 27 ตุลาคม 2516

2. ความพอดี

ในการสร้างตัวสร้างฐานะนั้นจะต้องถือหลักค่อยเป็นค่อยไป ด้วยความรอบคอบ ระมัดระวังและความพอเหมาะพอดี ไม่ทำเกินฐานะและกำลัง หรือทำด้วยความเร่งรีบ เมื่อมีพื้นฐานแน่นหนารองรับพร้อมแล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญก้าวหน้าในระดับสูงขึ้น ตามต่อกันไปเป็นลำดับ ผลที่เกิดขึ้นจึงจะแน่นอน มีหลักเกณฑ์ เป็นประโยชน์แท้และยั่งยืน พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยขอนแก่น วันที่ 18 ธันวาคม 2540

3. ความรู้ตน

เด็กๆ ทำอะไรต้องหัดให้รู้ตัว การรู้ตัวอยู่เสมอจะทำให้เป็นคนมีระเบียบและคนที่มีระเบียบดีแล้ว จะสามารถเล่าเรียนและทำการงานต่างๆ ได้โดยถูกต้องรวดเร็ว จะเป็นคนที่จะสร้างความสำเร็จและความเจริญ ให้แก่ตนเองและส่วนรวมในอนาคตได้อย่างแน่นอน พระบรมราโชวาท พระราชทานลงพิมพ์ในหนังสือ วันเด็ก ประจำปี 2521

4. คนเราจะต้องรับและจะต้องให้

คนเราจะเอาแต่ได้ไม่ได้ คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ หมายความว่าต่อไป และเดี๋ยวนี้ด้วยเมื่อรับสิ่งของใดมา ก็จะต้องพยายามให้ ในการให้นั้น ให้ได้โดยพยายามที่จะสร้างความสามัคคีให้หมู่คณะและในชาติ ทำให้หมู่คณะและชาติประชาชนทั้งหลายมีความไว้ใจซึ่งกันและกันได้ ช่วยที่ไหนได้ก็ช่วย ด้วยจิตใจที่เผื่อแผ่โดยแท้ พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น วันที่ 20 เมษายน 2521

5. อ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ

ในวงสังคมนั้นเล่า ท่านจะต้องรักษามารยาทอันดีงามสำหรับสุภาพชน รู้จักสัมมาคารวะ ไม่แข็งกระด้าง มีความอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ พร้อมจะเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อส่วนรวม พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 25 มิถุนายน 2496

6. พูดจริง ทำจริง

ผู้หนักแน่นในสัจจะพูดอย่างไร ทำอย่างนั้น จึงได้รับความสำเร็จ พร้อมทั้งความศรัทธาเชื่อถือและความยกย่องสรรเสริญ จากคนทุกฝ่าย การพูดแล้วทำ คือ พูดจริง ทำจริง จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมเกียรติคุณของบุคคลให้เด่นชัด และสร้างเสริมความดี ความเจริญ ให้เกิดขึ้นทั้งแก่บุคคลและส่วนรวม พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 10 กรกฎาคม 2540

7. หนังสือเป็นออมสิน

หนังสือเป็นการสะสมความรู้และทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ได้สร้างมา ทำมา คิดมา แต่โบราณกาลจนทุกวันนี้ หนังสือจึงเป็นสิ่งสำคัญ เป็นคล้ายๆ ธนาคารความรู้และเป็นออมสิน เป็นสิ่งที่จะทำให้ มนุษย์ก้าวหน้าได้โดยแท้ พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่คณะสมาชิกห้องสมุดทั่วประเทศ ในโอกาสที่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท วันที่ 25 พฤศจิกายน 2514

8. ความซื่อสัตย์

ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง เด็กๆ จึงต้องฝึกฝนอบรมให้เกิดมีขึ้นในตนเอง เพื่อจักได้เติบโตขึ้นเป็นคนดีมีประโยชน์ และมีชีวิตที่สะอาด ที่เจริญมั่นคง พระบรมราโชวาท พระราชทานเพื่อเชิญลงพิมพ์ในหนังสือวันเด็ก ปี พุทธศักราช 2531

9. การเอาชนะใจตน

ในการดำเนินชีวิตของเรา เราต้องข่มใจไม่กระทำสิ่งใดๆ ที่เรารู้สึกด้วยใจจริงว่าชั่วว่าเสื่อม เราต้องฝืนต้องต้านความคิดและความประพฤติทุกอย่างที่รู้สึกว่าขัดกับธรรมะ เราต้องกล้าและบากบั่นที่จะกระทำสิ่งที่เราทราบว่าเป็นความดี เป็นความถูกต้อง และเป็นธรรม ถ้าเราร่วมกันทำเช่นนี้ ให้ได้จริงๆ ให้ผลของความดีบังเกิดมากขึ้นๆ ก็จะช่วยค้ำจุนส่วนรวมไว้มิให้เสื่อมลงไป และจะช่วยให้ฟื้นคืนดีขึ้นได้เป็นลำดับ พระราชดำรัส พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่าน ในพิธีเปิดการประชุมยุวพุทธิกสมาคมทั่วประเทศ ครั้งที่ 12 ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันที่ 12 ธันวาคม 2513