จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันพฤหัสบดีที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2560

วัดศรีชมภูองค์ตื้อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย


วัดศรีชมภูองค์ตื้อ

วัดศรีชมภูองค์ตื้อ ตั้งอยู่เลขที่ 1 หมู่ที่ 8 บ้านน้ำโมง ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคายสังกัดมหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ 11 ไร่ 1 งาน 27 ตารางวา โฉนดเลขที่ 1212 อาณาเขตทิศเหนือประมาณ 220 เมตร จดที่มีการครอบครอง, ทิศใต้ประมาณ 210 เมตร จดทางสาธารณประโยชน์, ทิศตะวันออกประมาณ 140 เมตร จดห้วยโมง, ทิศตะวันตกประมาณ 121 เมตร จดทางสาธารณประโยชน์, อาคารเสนาสนะประกอบด้วยพระอุโบสถ, พระวิหาร, ศาลาการเปรียญ, กุฏิสงฆ์ 9 หลัง, ปูชนียวัตถุมีพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์นามพระเจ้าองค์ตื้อ ประดิษฐานอยู่ในพระวิหาร พระเจ้าองค์ตื้อน้อยประดิษฐานในพระอุโบสถ เจดีย์นกยูง เจดีย์ดอกบัว

ประวัติในหินศิลาจารึก
เรื่องหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ ถอดความจากอักษรตัวธรรมหรือภาษาไทยน้อยได้ว่าดังนี้
  1. สร้างเมื่อพระพุทธศักราช 2105 พระวรรษา
  2. พระชัยเชษฐาเป็นลูกเขยพระยาศรีสุวรรณภรรยาของพระชัยเชษฐาคือ พระนางศรีสมโพธิมีลูก 4 คนเป็นชาย 3 คน เป็นหญิง 1 คน
  3. พระชัยเชษฐาเกิดที่เมืองเวียงคุก ภรรยาเกิดที่เมืองจำปา (บ้านน้ำโมง) ในปัจจุบัน
  4. นามวัดโกศีลสร้างได้ 1 ปี 3 เดือน สมภารชื่อพระครูอินทราธิราช อายุ 34 พรรษา 15 มีพระอยู่ด้วย 12 รูป สามเณร 5 รูป
  5. ทางวัดโกศิลทางยาว 1 เส้น 5 วา กว้าง 1 เส้น 10 วา
  6. วัด โกศิล เป็นวัดที่สำคัญมากกงจักรเกิดที่วัดนี้ พระชัยเชษฐาจึงเลื่มใสจึงชักชวนคณะที่มีศรัทธารวม 8 คนคือ พระชัยเชษฐา, ท้าวอินทราธิราช, ท้าวเสนากัสสะปะ, ท้าวอินทร์, ท้าวเศษสุวรรณ, ท้าวพระยาศรี, ท้าวดามแดงทิพย์, ท้าวอินสรไกรยสิทธิ์ ร่วมกันสร้าง พระชัยเชษฐาเป็นคนหล่อ
  7. พระ ชัยเชษฐาป่าวร้องให้บริวาร 500 คนมาช่วยหล่อเป็นทองเหลือง เงิน และคำสผมกันน้ำหนักได้หนึ่งตื้อทำพิธีหล่อเท่าไรก็ไม่สำเร็จต่อเมื่อพระ อินทร์และเทพยดา 108 องค์มาช่วยหล่อจึงสำเร็จเป็นหลวงพ่อองค์ตื้อ
  8. วัดโกศิลตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง สร้างอยู่ 7 ปี 7 เดือนจึงสำเร็จเป็นหล่องพ่อองค์ตื้อ
  9. เมื่อหล่อแล้วมีอภินิหารเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ถึง 100 อย่าง
  10. พระพุทธรูปองค์นี้สิ้นเงิน 105,000 ชั่ง
  11. บ้าน ที่ขึ้นเป็นบริวารมี 13 บ้านคือ เมืองเวียงคุก, กองนาง, กำพร้า, จินายโม้, ปากโค, พรานพร้าว, ศรีเชียงใหม่, หนองคุ้งยางคำ, หนองแซงศรี, สามขา, ท่าบ่อ และ บ่อโอทะนา
ปาฏิหาริย์หลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ
มี เรื่องเล่ากันว่าครั้งหนึ่งพวกฮ่อได้ยกทัพข้ามโขงมาขึ้นที่ฝั่งวัดน้ำโขง เพื่อหวังจะทำลายพระองค์ตื้ออันเป็นที่เคารพสักการะของปวงชนแถบนั้นเพื่อ เป็นการทำลายขวัญและกำลังใจของชาวบ้าน ขณะที่ข้าศึกได้จ้วงขวานฟันลงไปที่พระชานุ (เข่า)ของพระองค์ตื้อนั้นก็ปรากฏมีเสียงร้องออกมาจากพระโอษฐ์ และมีพระโลหิตไกลออกจากแผลที่พระชานุ พร้อมกับมีน้ำพระเนตรไหลซึมออกมาเป็นที่น่าเวทนายิ่งนัก ข้าศึกเห็นเป็นอัศจรรย์เช่นนั้นก็เกรงจะเกิดภัยจึงได้รีบยกทัพกลับ แต่ก็ปรากฏว่าพวกฮ่อได้ถึงแก่ความตายจนหมดสิ้น ทุกวันนี้แผลเป็นที่พระชานะก็ยังปรากฏอยู่
ใน สมัยก่อนผู้คนสัญจรไปมาจะสวมรองเท้าเข้าไปในวัดไม่ได้ จะต้องมีอันเป็นไปโดยประการต่างๆ แม้แต่เจ้านายที่เข้ามาถือน้ำพิพัฒนสัตยาจะสวมรองเท้าเข้าไปในวิหารนั้นก็ ไม่ได้ถ้าบุคคลใดฝ่าฝืนก็จะได้รับโทษโดยประการต่างๆ เช่นเจ็บป่วยโดยกะทันหันเป็นต้น



บุคคล ที่ไม่มีบุตรธิดาสืบสกุล มีดอกไม้ธูปเทียนหรือเครื่องสักการะอย่างอื่นมาทูลขอบุตรธิดาจากพระองค์ตื้อ บุคคลผู้นั้นก็จะได้กุลบุตรธิดาสืบสกุลสมความมุ่งหมายปรารถนา แต่บุตรธิดาที่พระองค์ประธานให้แล้วนั้น บิดามารดาจะทำโทษหรือเฆี่ยนตีโดยประการใดๆ ไม่ได้ ต้องสั่งสอนเอาโดยธรรมเท่านั้น
บุคคล ผู้ใดของหาย เช่น เงิน ทอง โค กระบือ เป็นต้น มีดอกไม้ธูปเทียนเครื่องสักการะมาบูชาบวงสรวง เพื่อให้ได้สิ่งของนั้นคืนมาก็จะได้คืนมาสมประสงค์ทรัพย์สมบัติของใครหายไม่ ทราบว่าผู้ใดมาลักขโมยเอาไป เจ้าของทรัพย์หากมีความสงสัยผู้ใดก็นำบุคคลผู้นั้นมาทำสัตย์สาบานต่อหน้าพระ พักตร์พระเจ้าองค์ตื้อ ถ้าบุคคลผู้นั้นไม่ได้เอาไปก็จะไม่เป็นอะไร แต่ถ้าบุคคลผู้นั้นเอาไปจริงๆ แต่ปฏิเสธไม่ยอมรับตามความจริง บุคคลผู้นั้นก็จะได้รับโทษเช่น เจ็บป่าวยหรืออาจถึงแก่ความตายได้
บุคคล ผู้ใดไปทำศึกสงคราม ได้มาบนบานขอให้พระเจ้าองค์ตื้อคุ้มครอง บุคคลผู้นั้นก็จะปลอดภัยประสพแต่ความสวัสดีมีชัยกลับมาและบุคคลผู้ใดปรารถนา อยากจะให้มีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตนำเครื่องสักการะมาบูชาพระเจ้าองค์ ตื้อขออานุภาพของพระองค์ตื้อคุ้มครองและบันดาลให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองใน การประกอบอาชีพที่สุจริตบุคคลผู้นั้นก็จักเจริญสมความมุ่งมาดปรารถนาทุก ประการ
อนึ่งการเจ็บไข้ได้ป่วย จนถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อไปมาไม่ได้ บางคนก็ให้ญาติพี่น้องไปบูชาแผ่นทองปิดองค์หลวงพ่อใหญ่หรือพระพุทธจำลอง ตั้งจิตอธิฐานปิดตรงที่เจ็บปวดนั้น ปรากฏว่าโรคนั้นก็หายดังจิตอธิฐาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น